ปิยะนุช นาคคง

มีคนติดตามอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าหลายๆคนคงต้องรู้จัก ปิยะนุช ศกุนตนาค (ปิยะนุช นาคคง) อดีตดาราเจ้าบทบาท นักพูดชื่อดัง พิธีกรผู้มากฝีมือ และเป็นผู้ครองหัวใจของ พลตรี ศานติ ศกุนตนาค อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งล่าสุดได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่

โดยเจ้าตัวได้โพสต์ขอบคุณทุกกระแสที่ส่งความยินดีให้แก่ครอบครัวเธอ โดย ปิยะนุช ศกุนตนาค (ปิยะนุช นาคคง) โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุข้อความว่า “กราบนมัสการพระภิกษุสงฆ์ กราบขอบพระคุณ คุณครู อาจารย์ ผู้บังคับบัญชา

ญาติมิตร เพื่อน พี่น้องและสมาชิกกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 กองทัพภาคที่ 3 กองทัพภาคที่ 4 และสื่อมวลชนทุกท่าน ที่เมตตา

โทรมาและส่งข้อความมาแสดงความยินดี ในโอกาสที่พี่ต้นได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ค่ะ พี่ต้นและนุชจะตั้งใจทำงานเพื่อกองทัพภาคที่ 4 อย่างเต็มกำลัง

ให้สมกับที่ทุกท่านเมตตาให้กำลังใจมาโดยตลอดค่ะ” โดยกรณี โยกย้ายทหาร ต.ค.65 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ

โปรดเกล้าฯ ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ จำนวน 765 นาย พร้อมพระราชทานยศ พลโท (พล.ท.) และพลตรี (พล.ต.) ตามลำดับ

ทั้งนี้ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป 1. พลตรี พนา แคล้วปลอดทุกข์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็น แม่ทัพภาคที่ 1

2. พลตรี สุริยะ เอี่ยมสุโร รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็น แม่ทัพภาคที่ 3 3. พลตรี ศานติ ศกุนตนาค รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็น แม่ทัพภาคที่ 4

4. พลตรี ชิษณุพงศ์ รอดศิริ รองแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็น แม่ทัพน้อยที่ 1 5. พลตรี ธวัชชัย แจ้งประจักษ์ รองแม่ทัพน้อยที่ 2 เป็น แม่ทัพน้อยที่ 2

ปิยะนุช ศกุนตนาค โตมาในครอบครัวนักวัฒนธรรม เรียนชั้นประถมที่ ร.ร.ศรีอุลัย มัธยมที่วิทยาลัยนาฎสิลป์ กรมศิลปากร อุดมศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปสอนหนังสืออยู่อเมริกา 1 ปี จากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ วันนี้ ปิยะนุช นาคคง กลายเป็นหญิงสาวผู้มากความสามารถ

ที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันทั้งในฐานะนักพูดชื่อดัง พิธีกรผู้มากฝีมือ ดาราเจ้าบทบาท หรือแม้กระทั่งในตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมและในวันนี้

เธอผู้นี้ยังมีหน้าที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง และเป็นหน้าที่ที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเนื่องจาก เป็นหน้าที่ที่ทำเพราะ “ใจรัก” โดยแท้ นั่นก็คือตำแหน่งผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว และนำไปสู่พิพิธภัณฑ์ของจิ๋วสัญจรในท้ายที่สุด ตู้ที่คุณแม่ชอบมากที่สุดคือตู้ของจิ๋ว ของเจ้าจอมมารดาเลียม ในล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 และนั่นเป็นก้าวแรกที่คุณแม่ได้รู้เห็น

ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ และหลงรักของจิ๋วเหล่านั้น ยิ่งเมื่อเห็นทุกวัน ไปดูทุกวันก็ยิ่งผูกพัน ปิยะนุชกล่าว ทและเพียงความผูกพันจากการดูเพียงเท่านั้น

ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้เด็กหญิงคนนั้นเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความรักความผูกพันกับของจิ๋วเหล่านี้ อ.ดรุณีนาถเริ่มสะสม และยิ่งกว่านั้นเธอเริ่มอยากจะทำเอง

“สมัยเล็กๆ ได้เห็นคุณแม่พยายามจะผสมแป้งหลายๆ ชนิดเข้าด้วยกัน เพื่อจะให้ออกมาเป็นแป้งสำหรับปั้นขนมปัง แต่ในที่สุดก็มาลงตัวซึ่งก็เป็นสูตรที่นักปั้นขนมจิ๋ว ต้นไม้จิ๋ว อาหารจิ๋วและของจิ๋วต่างๆ ในปัจจุบันนี้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย”